“ผมจะสร้างบ้านดิน”
ตั้งแต่เล็กจนโตผมปรารถนาที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังเหมือนดังคนทั่วไปที่มักใฝ่ฝันจะมีบ้าน แต่บ้านที่ผมเคยเห็นส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ หรือบ้านที่ทําจากปูนซีเมนต์ ซึ่งที่กล่าวมานั้น ล้วนต้องใช้ต้นทุนในการสร้างสูงซึ่งก็ไม่รู้ว่าผมจะต้องใช้เวลากี่สิบปีกว่าจะมีบ้านได้สักหลัง
จนวันหนึ่งโครงการพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์อนาคตเยาวชนจัดอบรมเกษตรพึ่งตนเอง ที่พันพรรณ
ซึ่งที่นั่นเองผมได้เรียนรู้ที่จะพึ่งตนเองทําเกษตรและทําบ้านดิน
ในส่วนของบ้านดินนั้นผมสึกตื่นเต้นและประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ห็นคนสร้างบ้านดินได้ใหญ่โตอลังการไม่แพ้
บ้านจัดสรร แต่ที่แตกต่างคือต้นทุนซึ่งใช้น้อยกว่าการสร้างบ้านทั่วไป
จากจุดนี้เองที่ทําให้ผมเห็นทางเลือกให้กับตัวเองและขอลั่นวาจาว่า
“ผมจะมีบ้านดินเป็นหลังแรกของหมู่บ้าน”
หลังจากปีแรกของการเรียนรู้ที่สวนพันพรรณผมได้เรียนรู้บ้านดินผ่านการปฎิบัติร่วมกับโครงการฯ ณ
ที่ดินของโครงการฯในอําเภอสันกําแพงผมได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทําจนเข้าใจทุกขั้นตอนของการทําอิฐ
ตั้งแต่การแช่ดินใส่ส่วนผสมต่างๆ เหยียบดินจนได้ที่แล้วขนดินไปเทลงแม่พิมพ์ กลายเป็นก้อนอิฐแล้วตากจนแห้ง
ปีที่ 2 ของการจัดอบรมที่พรรณ
ซึ่งจัดโดยโครงการฯ ผมและเพื่อนๆได้ไปเรียนรู้บ้านดินอีกเป็นครั้ง
จบจากการอบรมเป็นช่วงปิดเทอมยาว พลังในตัวผมก็ลุกโชน ผมรีบเดินทางจากเชียงใหม่กลับสู่บ้านเกิดและเริ่มทำตามฝันของตนเอง ผมลงมือปั้นอิฐและพยายามทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในเวลา 1 เดือน ผมเริ่มต้นการปั้นอิฐโดยไม่ต้องใช้เงินทุนแม้แต่บาทเดียว
ผมขุดดินหน้าบ้านให้เป็นบ่อเล็กๆ และยืมสายยางจากเพื่อนบ้านเพื่อต่อน้ำจากก๊อกน้ำมาสู่บ่อดิน
ช่วงที่ผมเริ่มปั้นอิฐนั้นเป็นช่วงฤดูแล้ง ปลายเดือนเมษายน ซึ่งน้ำประปาภูเขาในหมู่บ้านไม่เพียงพอที่จะใช้
บ่อยครั้งที่น้ำไหลหนึ่งวันแล้วหยุดไปสามวัน
ดังนั้นผมจึงรอน้ำจากก๊อกไม่ได้ ผมเลือกแก้ปัญหานี้โดยการไปแบกเอาน้ำจากโรงเรียนมาเทลงบ่อดิน(ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกล) จากนั้นก็ไปขนฟางที่ชาวบ้านทิ้งแล้วนำมาสับเป็นท่อนเล็กๆ เพื่อให้เป็นส่วนผสมในการปั้นอิฐดิน ส่วนไม้แบบอิฐดินนั้นผมก็ขอให้ลุงช่างในหมู่บ้านทำให้ฟรี
เมื่อทุกอย่างพร้อมผมก็เริ่มเหยียบและปั้นอิฐจากดิน
วันแรกผมย่ำดินที่หน้าหน้าบ้านเพียงลำพัง เมื่อมีคนเดินผ่านไปผ่านมา ก็มักจะตั้งคำถามถามผมว่า
“ทำอะไรน่ะ?”
ผมตอบกลับไปว่า
“ปั้นอิฐเพื่อจะทำบ้านดิน”
บางคนก็สนับสนุน ชื่นชมยินดีแต่ก็มีไม่น้อยที่จะพูดว่า
“มันจะได้เหรอ”
“ แล้วจะสร้างยังไง”
“สู้ปูนซีเมนต์ไม่ได้เหรอก”
“เดี๋ยวก็พังหมด เสียเวลาเปล่า”
แน่นอน!!พวกเขาไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มตัวคนเดียวจะสร้างบ้านได้
สำหรับผมแล้ว ผมรู้ดีว่าผมไม่ได้จะบ้านเพียงลำพัง
ผมมีเพื่อนและพี่ๆในโครงการที่คอยสนับสนุน และพร้อมจะสนับสนุนผมดังนั้นผมจึงไม่แยแสต่อคำพูดสบประมาทเหล่านั้น
นอกจากเพื่อนๆพี่ๆในโครงการฯ ผมยังมีครอบครัวที่คอยสนับสนุน
คอยให้กำลังใจ รวมถึงสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กระแป๋งตักน้ำของแม่ ผมได้เอามาทำเป็นกระแป๋งตักดินทำเอาแม่บ่นไปหลายชุด
หลังจากผมได้เริ่มทำดิน ก็ได้มีเด็กๆมาช่วยในช่วงหยุดเรียนบ้างเป็นบางครั้งหรือช่วงเลิกเรียน รวมทั้งน้องชายของผมเองก็จะมาช่วยขุดดินแต่โดยรวมแล้วผมจะทำคนเดียวเสียเป็นส่วนใหญ่เพราะผมจำทำงาในช่วงเช้าตรู่และบ่ายเมื่อแดดร่มลมตก
การทำงานคนเดียวนั้นยากลำบากและเหนื่อยจริงๆโดยเฉพาะตอนที่ต้องยกไม้แบบ ซึ่งปกติจะยกกันสองคนแต่เมื่อไม่มีใครผมก็ยกคนเดียว ผมทำได้ประมาณวันละ
20-30ก้อน ใช้เวลาประมาณ4-5 ชั่วโมงต่อวัน สภาพอากาศที่บ้านผมร้อนแต่ก็ร้อนน้อยกว่าในเมืองเชียงใหม่ อิฐจึงแห้งได้ช้ากว่า ประกอบกับช่วงนั้นเริ่มเข้าสู่หน้าฝน บางครั้งฝนก็ตกลงมา ฝนจึงนับเป็นอุปสรรคผมต้องเผชิญ ผมเลือกที่จะแก้ปัญหานี้ โดยการย้ายไปทำอิฐใต้ถุนบ้าน เลือกตากอิฐในพื้นที่จำไม่โดนฝน ผมตากอิฐจนเต็มใต้ถุนบ้าน
บ่อยครั้งที่ผมเทดินเสร็จปุ๊ป เจ้าแม่ไก่ตัวโตก็จะเดินมาเหยียบอิฐดินของผมจนเป็นรูแล้วเดิน ทำหน้าตาเฉยจากไป
เมือนมันคงจะอยากบอกผมว่า
“นายกำลังมารุกล้ำอาณาเขตของฉันนะ”
เพราะเอาเข้าใจจริงพื้นที่ตรงนั้นเคยเป็นที่กกไข่ของมันแต่โดนผมเอาดินมาวางแทน ^__^
ช่วงแรกอิฐดินของผมมีขนาดใหญ่มากชั่งได้ก้อนละสิบสามกิโลกรัม ซึ่งดูแล้วอาจจะหนักเกินไป และคงลำบากเพื่อนๆมากเวลาที่ต้องยกอิฐเหล่านั้นขึ้นในขั้นตอนของการสร้างบ้านดิจ ผมจึงลดขนาดของอิฐลง ช่วงท้ายๆฝนเริ่มตกชุกขึ้น จนไม่สามารถทำงานต่อได้
ผมจึงตัดสินใจหยุดปั้นอิฐ
ถึงแม้ผมจะได้หยุดปั้นดินให้เป้นอิฐแล้วแต่ผมไม่ได้หยุดฝัน ผมฝันที่จะสร้างบ้านดินและปีหน้าผมก็จะปั้นอิฐดินเพิ่มอีก
ปีนี้ผมปั้นได้ราวๆ 200-300ก้อน ผมภูมิใจและรู้สึกว่าตนเองเก่งมาก และผมจะเก่งขึ้นอีกถ้าได้สร้างบ้านดินจนสำเร็จและตอนนั้นผมจะสามารถบอกใครต่อใครได้ว่า “ผมมีบ้านดิน ที่ทำด้วยตัวเอง”
สมชาย ศรีลักษณ์
เป็นเยาวชนที่ได้รับสนับสนุนทุนการศึกษาตั้ง แต่ ระดับมัธยมศึกษาต่อเนื่องมาจนถึงระดับ
มหาวิทยาลัย ปัจจุบันศึกษาอยู่ระดับชั้นปีที่ 3 คณะศึกษาศาสตร์ วิทยาลัยการพละศึกษาเชียงใหม่
นอกจากนี้สมชายร่วมกิจกรรมและได้ผ่านการฝึกอบรมต่างๆซึ่งจัดโดยโครงการฯ
เกษตรและการพึ่งตนเองเป็นประเด็นที่สมชาย ให้ความสนใจเป็นพิเศษและฝันอันยิ่งใหญ่ของสมชายที่จะสร้าง
บ้านด้วย ตนเองจะเป็นจริงในไม่ช้า เราได้วางแผนร่วมกันว่า เราจะไปสร้างบ้านดินของสมชาย ในเร็ววันนี้
หมายเหตุ
โครงการพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์อนาคตเยาวชน(สร้างสรรค์ฯ )
เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสิทธิเด็กเยาวชนชาติพันธุ์
ให้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาทั้งการศึกษาในระบบและการศึกษาทางเลือก เราทำงานกับเด็กและเยาวชนกว่า
300 คน ในจำนวนนี้เราสนับสนุนทุนการศึกษาจำนวนกว่า 120 ทุน ตั้งต่ระดับมัธยมศึกษา
ต่อเนื่องไปจนถึงระดับมหาลัย
สนใจสนับสนุนสมทบทุนส่วนของวัสดุและอุปกรณ์ในการสร้างบ้านตลอดจนค่าอาหาร
สำหรับอาสาสมัครซึ่งต้องการที่จะเรียนรู้การสร้างบ้านดินในครั้งนี้
สนับสนุนได้ที่บัญชี:
นางสาวมัจฉา พรอินทร์ บัญชีออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 457-2-32422-8 ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่
No comments:
Post a Comment